C-krop (ซีครอป)

สารเสริมประสิทธิภาพพืช C-krop

ทำไมต้อง C-krop :
• มี L-Glycine และ L-Glutamic acid ซึ่งเป็นสารตั้งต้นสำคัญให้พืชใช้ผลิตกรดอะมิโนที่พืชจำเป็นต้องผลิตขึ้นมาใช้ในกระบวนการสร้างการเติบโต
• อยู่ในรูปโมเลกุลขนาดเล็กถูกดูดซึมทางราก ปากใบและเนื้อเยื่อของพืชไ้ด้ง่ายเรียกว่า. “อยู่ในรูปที่มีความพร้อมทางชีวภาพ”
• ช่วยในการเคลื่อนย้ายธาตุอาหารไปยังส่วนต่างๆของพืชได้อย่างรวดเร็ว (เนื่องจากเป็นสารชนิดเดียวกับที่พืชผลิตขึ้นมาใช้)
• ประหยัดพลังงานและเวลาในการสร้างสารตั้งต้นในการผลิตกรดอะมิโนจำเป็น
• ฉีดพ่นได้ทุกช่วงการเจิรญเติบโต ใช้ได้ในพืชทุกชนิด ไม่เป็นพิษกับพืช ดิน คนและสัตว์

ประโยชน์ของ C-krop ( Biostimulant OceanBase.)

เพิ่มการผลิตคลอโรฟิลล์
C-kropอุดมด้วย L-Glycine และ L-Glutamic acid เป็นสารที่จำเป็นต่อการสังเคราะห์คลอโรฟิลล์และการสร้างเนื้อเยื่อ ทำให้ความเข้มข้นของคลอโรฟิลล์ในพืชเพิ่มขึ้น

คลอโรฟิลล์ที่มากขึ้นทำให้การดูดซึมพลังงานแสงได้มากขึ้น ซึ่งจะเป็นการเพิ่มการสังเคราะห์ด้วยแสง ทำให้พืชสะสมอาหารได้ดีขึ้น

ให้แหล่งไนโตรเจนอินทรีย์ที่อุดมสมบูรณ์
C-krop จะให้ธาตุไนโตรเจนที่อยู่ในรูปของ L-amino Acid จะค่อยๆปลดปล่อยให้พืชอย่างต่อเนื่องไม่มากจนเกินไป พืชที่ได้รับNจาก C-krop จะเจริญเติบโตสมบูรณ์มีผนังเซลล์ที่แข็งแรง

แตกต่างจากพืชที่ได้รับ ไนโตรเจน(N)จากปุ๋ยเคมีในรูป ไนเตรต (NO3) และแอมโมเนียม (NH4) ที่มักสร้างการเติบโตอย่างรวดเร็ว เมื่อเซลล์ยืดตัวอย่างรวดเร็วผนังเซลล์จะยืดและบางลง ถูกแมลงศัตรูพืชเข้าทำลายได้ง่าย

สังเกตุได้จากพืชไร่หลายชนิด เช่นข้าวโพดที่ได้รับไนเตรตสูง (NO3) จะเติบโตเร็วแต่อ่อนแอ และการได้รับไนโตรเจน (N) ในรูปไนเตรตจากปุ๋ยเคมีที่มากเกินไปอาจทำให้พืชขาด ธาตุสำคัญอย่าง แคลเซียม แมกนีเซียม และโพแทสเซียม ได้อีกด้วย

กระตุ้นการสังเคราะห์วิตามิน
C-kropอุดมด้วยสารตั้งต้นและเป็นองค์ประกอบ ของฮอร์โมนพืชและสารประกอบการเจริญเติบโตอื่นๆ ได้แก่ L-Methionine มีความสำคัญในไม้ผลและไม้ดอก มีความสำคัญในการควบคุม ฮอร์โมนพืชที่เกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโต

การสร้างดอก การติดผล และการสุกแก่ของผลไม้ การให้พืชได้รับ L-Methionine ในปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยส่งเสริมให้พืชเจริญงอกงามและให้ผลผลิตที่มีคุณภาพดี

L-Tryptophan เป็นกรดอะมิโนที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการสังเคราะห์ออกซิน (auxin synthesis)ช่วยควบคุมการเจริญเติบโตของพืช เช่น ส่งเสริมการยืดตัวของเซลล์ กระตุ้นการแตกรากอ่อน ชักนำการสร้างผลและช่วยยับยั้งการร่วงของผล

IAA หรือ Indole-3-Acetic Acid เป็นฮอร์โมนพืชที่มีบทบาทสำคัญมากในการเจริญเติบโตของราก เพราะ IAA จะช่วยกระตุ้นให้รากแตกแขนงออกมามากขึ้น ทำให้รากยาวออกและมีขนาดใหญ่ขึ้น เมื่อรากมีขนาดใหญ่และแตกแขนงมากก็จะสามารถดูดซึมน้ำและธาตุอาหารจากดินได้มากขึ้นตามไปด้วย อีกทั้ง IAA ยังช่วยให้รากเจริญงอกงามลงไปในดินได้
.
อย่างถูกต้องด้วย หากต้นไม้ได้รับ IAA อย่างเพียงพอ ก็จะส่งผลให้ต้นไม้นั้นแข็งแรง มีระบบรากที่แข็งแรง ดูดซึมน้ำและธาตุอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ต้นไม้เจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์และให้ผลผลิตที่มีคุณภาพ ดังนั้น การมี IAA ในปริมาณที่พอเหมาะจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้พืชเจริญงอกงามและให้ผลผลิตดีได้
.
นอกจากนี้ IAA ยังช่วยกระตุ้นให้เกิดปมรากจากการปฏิสัมพันธ์กับจุลินทรีย์ตรึงไนโตรเจน ทำให้พืชได้รับประโยชน์จากไนโตรเจนมากขึ้นด้วย ซึ่งเป็นประโยชน์อีกประการหนึ่งต่อการเจริญเติบโตของพืชเช่นกัน

L-Arginine เป็นกรดอะมิโนที่มีความสำคัญต่อการผลิตไซโตคินิน (cytokinin synthesis)ซึ่งเป็นฮอร์โมนพืชที่มีบทบาทสำคัญต่อการเจริญเติบโตของพืช ช่วยให้พืชสร้างส่วนต่างๆ เช่น ยอด ใบอ่อน และกิ่งแขนงใหม่ได้ดี และ ไซโตคินินยังมีบทบาทในการยับยั้งการเสื่อมสภาพ ของใบ และกระตุ้นการพัฒนาของดอกและผล หากพืชขาดไซโตคินิน
.
จะทำให้การแตกยอดอ่อนและการเจริญของส่วนต่างๆของพืชผิดปกติหรือถูกยับยั้งดังนั้น L-Arginine ใน C-krop จึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการผลิตไซโตคินินซึ่งเป็นฮอร์โมนควบคุมการเจริญเติบโตหลักของพืช การมีปริมาณ L-Arginine ที่เพียงพอจะช่วยให้พืชสามารถสร้างไซโตคินินได้อย่างเหมาะสม ส่งผลให้พืชเจริญเติบโตได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ส่งผลต่อระบบเอนไซม์ต่างๆ
C-kropมีสารสำคัญเป็นองค์ประกอบในการสร้างเอนไซม์ และช่วยควบคุมกระตุ้นกิจกรรมของเอ็นไซม์ของพืชตั้งแต่การสร้างการควบคุมซึงระบบเอ็นไซม์ในพืช เป็นปัจจัยสำคัญในการควบคุมกระบวนการต่างๆภายในเซลล์พืชให้ดำเนินไปได้อย่างสมบูรณ์และมีประสิทธิภาพ

กระตุ้นการออกดอก
c-krop อุดมด้วย กรดอะมิโนทริปโทเฟน (Tryptophan) เป็นสารตั้งต้นในการสร้างออกซินที่ช่วยกระตุ้นการสร้างดอกและมี Arginineเป็นสารสำคัญสำหรับสร้างไซโตไคนินที่ช่วยเหนี่ยวนำการออกดอกในพืชบางชนิด

และในซีครอปยังมีกรดอะมิโนโปรตีนจำนวนมากที่มีหน้าที่ควบคุมการออกดอก เช่นโปรตีนกลุ่ม MADS ซึ่งจำเป็นต้องใช้กรดอะมิโนในการสังเคราะห์เท่านั้น มี กรดอะมิโนอาร์จินีน (Arginine) ช่วยให้กระบวนการออกดอกดำเนินไปอย่างสมบูรณ์

ดังนั้น C-krop จึงเป็นแหล่งพลังงานสำหรับกระบวนการออกดอก การออกดอกเป็นกระบวนการที่ต้องใช้พลังงานสูงและ กรดอะมิโนในซีครอปสามารถถูกใช้เป็นแหล่งพลังงานในขั้นตอนนี้ได้

Better fruit setting-การติดผลที่ดีกว่า
C-krop ส่งเสริม การติดผลในพืชผลไม้C-krop ประกอบด้วยกรดอะมิโนต่างๆ เช่น tryptophan ซึ่งเป็นสารตั้งต้นในการสังเคราะห์ “auxin” ซึ่งเป็นฮอร์โมนพืชที่มีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นการติดผล ช่วยให้ดอกพัฒนาเป็นผลสุกได้มากขึ้น

นอกจากนี้ C-krop ยังมีองค์ประกอบของ arginine ซึ่งเกี่ยวข้องกับการสร้าง”cytokinin” อีกฮอร์โมนสำคัญที่ส่งเสริมการติดผลและพัฒนาการของผลองค์ประกอบของ C-krop ยังเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญสำหรับกระบวนการติดผล

ซึ่งต้องใช้พลังงานสูง C-krop สามารถถูกนำไปใช้เป็นแหล่งพลังงานในขั้นตอนนี้ได้การใช้ C-krop จะช่วยเพิ่มการสังเคราะห์ฮอร์โมนพืชที่เกี่ยวข้องกับการติดผล ให้พลังงานสำหรับกระบวนการติดผล ส่งผลให้มีการติดผลที่ดีขึ้น ผลผลิตเพิ่มมากขึ้น คุณภาพผลดีขึ้น และลดการสูญเสียผลผลิต

ดังนั้น C-krop จึงเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์ในการส่งเสริมให้พืชผลไม้มีการติดผลที่ดีขึ้น เพิ่มผลผลิต และยกระดับคุณภาพของผลผลิต

ปริมาณสารอาหาร ขนาด รส และสีของผลไม้ที่สูงขึ้น
C-kropช่วยเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ ขนาด รสชาติ และสีสันของผลไม้ โดยในซีครอปอุดมด้วยสารตั้งต้นสำหรับสร้างฮอร์โมนพืชที่มีหน้าที่ควบคุมการพัฒนาของผล ทำให้ผลมีขนาดใหญ่ขึ้น ในC-kropยังมีกรดอะมิโนหลายชนิดที่เป็นองค์ประกอบในการสร้างโปรตีน เอนไซม์ และสารต่างๆ ที่ส่งผลต่อคุณภาพและรสชาติของผลไม้ นอกจากนี้ กรดอะมิโนบางชนิดใน C-kropยังช่วยในการสังเคราะห์สารสีในผลไม้ ดังนั้น การใช้C-kropกับพืชจะช่วยเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ ขนาด รสชาติ และสีสันที่น่าดึงดูดใจของผลไม้

ระดับบริกซ์ที่สูงขึ้น (คุณภาพเพิ่มขึ้น)
C-krop จะช่วยให้พืชสังเคราะห์และสะสมน้ำตาล กรดอะมิโน และสารต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น ส่งผลให้ระดับบริกซ์สูงขึ้น ได้ผลผลิตคุณภาพเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค เช่น มีรสหวาน มีกลิ่นและรสชาติที่ดีขึ้น ผลมีขนาดใหญ่และสีสันสดใส ช่วยเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการและความน่ารับประทานของพืชผลเหล่านั้น

Increased pest and pathogen resistance
C-krop ช่วยเพิ่มความต้านทานต่อโรคและแมลงศัตรูพืช C-krop ประกอบด้วยกรดอะมิโนชนิดต่างๆ เช่น glutamine, arginine และ proline ซึ่งเป็นองค์ประกอบในการสร้าง “phytoalexins” ซึ่งเป็นสารต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา ช่วยป้องกันการติดเชื้อจากสิ่งเหล่านี้

นอกจากนี้ C-krop ยังมี เมไทโอนีน (methionine) และ ซิสตีน (cystene) ) ที่เกี่ยวข้องกับการสร้าง “glucosinolates” ซึ่งเป็นสารประกอบต้านจุลินทรีย์ และเอนไซม์ย่อยผนังเซลล์เชื้อรา,C-krop ช่วยสังเคราะห์ “plant hormones”

เช่น ethylene, salicylic acid และ จัสโมเนท (Jasmonate) ซึ่งกระตุ้นการตอบสนองเมื่อถูกรบกวน และเหนี่ยวนำกลไกป้องกันตัวในพืช ด้วยองค์ประกอบของ C-krop จะช่วยเสริมสร้างกลไกการต้านทานแมลงและเชื้อสาเหตุโรคพืชผ่านการสร้างสารต้านจุลชีพ การตอบสนองทางสรีรวิทยา

และการสังเคราะห์ฮอร์โมนที่เกี่ยวข้อง ทำให้พืชแข็งแรงและลดความเสี่ยงในการสูญเสียผลผลิต

C-krop ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการสังเคราะห์โปรตีนทางชีวภาพ ลดความเครียดในพืชที่เกิดจากสิ่งมีชีวิต เช่น แมลงศัตรูพืช รวมถึงโรคพืชต่างๆ เพิ่มการสังเคราะห์ด้วยแสง ให้ไนโตรเจนอินทรีย์ ที่พืชดูดซึมไปใช้่ ง่ายทั้งทางปากใบและทางราก ทำปฏิกิริยาคีเลชั่นทำกับจุลธาตุปลดปล่อยให้พืชดูดซับไปใช้ได้ การสร้างผลไม้ และกิจกรรมของจุลินทรีย์

ธาตุอาหารจากทะเล สร้างดินให้สมบูรณ์ สร้างพืชให้แข็งแรง สร้างจุลินทรีย์ดีให้ดิน

• ผลิตด้วยเอนไซม์จากจุลินทรีย์เฉพาะกลุ่ม ได้สารอินทรีย์ที่เสริมสร้างชีวภาพในดิน
  .
• มีธาตุอาหารหลักและธาตุอาหารรอง ส่งเสริมการเติบโต เพิ่มผลผลิต
  .
• มีฮอร์โมนและวิตามินต่างๆ ที่ส่งเสริมให้พืชมีสุขภาพแข็งแรง ทนทานต่อความเครียด จากโรคและแมลงศัตรูพืช รวมถึงความเครียดจากสภาพอากาศ ความแล้ง
  .
• มีL-amino acidสูง ช่วยให้การเคลื่อนย้ายธาตุอาหารไปยังส่วนต่างๆของพืชทำได้สะดวก ทันต่อความต้องการใช้ของพืช เพราะ L-amino acid ในซีครอป คือกรดอะมิโนชนิดเดียวกับที่พืชจำเป็นต้องสร้างขึ้นมาใช้

C-krop ผลิตโดยเอนไซม์ ด้วยกระบวนการผลิตที่ถูกออกแบบเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์สารสกัดชีวอินทรีย์เข้มข้นคุณภาพสูงในราคาประหยัด

สรุปประโยชน์ของสารเสริมประสิทธิภาพพืช ซีครอป (C-krop)

C-krop (ซีครอป) สามารถใช้ได้ทั้งทางดินและทางใบ เป็นประโยชน์ต่อพืชในทุกระยะการเจริญเติบโต สามารถใช้ซีครอป(C-krop)แบบเดี่ยวๆหรือใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่เข้ากันได้

ซีครอปมีกรดอะมิโน (L-amino Acid) ,ฮอร์โมน,วิตามิน,Oil และธาตุอาหาร ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ทั้งหมดนั้นเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช

ในกระบวนการผลิตซีครอป (C-krop)ได้มีการสกัดสารชีวอินทรีย์ด้วยเอนไซม์ (Cold Process)โดยไม่มีการใช้ความร้อนในกระบวนการผลิต จึงทำให้ซีครอปอุดมด้วยธาตุอาหารและวิตามินรวมถึงเอนไซม์ต่างๆ

ซีครอปช่วยปรับสมดุลดิน เพิ่มความสามารถกักเก็บน้ำและปุ๋ยรวมถึงการปลดปล่อยให้พืชดูดซับไปใช้ ไ้ด้ในยามที่พืชต้องการ ซีครอปยังช่วยปลดปล่อยธาตุอาหารที่ถูกตรึงไว้ในดินให้อยู่ในรูปที่เป็นประโยชน์กับพืช

C-krop มีกรดอะมิโนปริมาณสูง จุลินทรีย์ที่ได้รับกรดอะมิโนจะแข็งแรงและขยายพันธ์เพิ่มจำนวนได้อย่างรวดเร็ว ช่วยเพิ่มกิจกรรมทางชีวภาพในดิน

C-krop ผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติจากทะเล ซึ่งอุดมด้วยแร่ธาตุ สารอาหารหลายชนิดรวมกันอยู่ในซีครอปทั้งธาตุหลัก ธาตุอาหารรอง และธาตุอาหารเสริมและอื่นๆที่ได้จากธรรมชาติเท่านั้น

ปริมาณการใช้ วิธีผสม ระยะเวลา ความถี่

ใส่ทางดิน ผสมซีครอป 40 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร
.
คลุกเคล้าลงดินระหว่างการไถเตรียมดินหรือรองพื้นก้นหลุมก่อนปลูกพืช
.
หากเป็นไม้ยืนต้น ให้คลุกเคล้ากับดินรอบๆ ลำต้น หรือราดลงดินทุกๆ 15 วัน

ฉีดพ่นทางใบ ผสมซีครอป 20 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร
.
ฉีดพ่นใบพืชทุกๆ 7 วันแนะนำควรใช้สารชีวอินทรีย์ ซีครอปทางดินร่วมกับการฉีดพ่นทางใบ
.
หรือร่วมกับ Matter-Dสารปรับปรุงดินกลุ่มจุลินทรีย์ดีสูง ส่งเสริมป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราในดิน

คำแนะนำ-ข้อควรระวัง

ควรฉีดพ่นในเวลาเช้าหรือเย็น ในเวลาที่อากาศไม่ร้อน ลมพัดไม่แรง และคาดว่าฝนจะไม่ตก

ขณะฉีดพ่น พืชต้องไม่เหี่ยวเฉา

ควรเก็บสารชีวอินทรีย์ ซีครอป ในภาชนะปิดสนิท ในที่ร่มและแห้งอุณหภูมิไม่เกิน 35o C

ควรใช้ตามอัตราส่วนที่แนะนำ

สารชีวอินทรีย์ ซีครอป อาจมีก๊าซเกิดขึ้น ถ้าได้รับความร้อน ควรเปิดด้วยความระมัดระวัง

C-krop (ซีครอป)สามารถใช้ร่วมกับสารอื่นได้ เช่น ไตรโคเดอร์มา หรือสารชีวภัณฑ์อื่นๆ ,ยาฆ่าเชื้อราเคมี , สารฮิวมิค ฟูลวิก ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยน้ำสูตรอื่นๆ และสารป้องกันกำจัดแมลง แต่ควรทดสอบการผสมก่อนใช้งานจริงทุกครั้ง

ใช้แทนปุ๋ย ผสมซีครอปในอัตรา 1 ลิตร ผสมน้ำ 10 ลิตร ราดดินได้บ่อยเท่าที่ต้องการ

ใช้เป็นสารเสริมประสิทธิภาพ (Biostimulant) ผสมซีครอปในอัตรา 1 ลิตร ต่อน้ำ 200 ลิตร ฉีดพ่น ทุกๆ 15 วัน ครั้ง หรือ เดือนละครั้ง หรือตามที่ต้องการ และเหมาะสมในแต่ละช่วงของการเจริญเติบโตในพืชนั้นๆ

การฉีดพ่นทางใบ ผสมซีครอป อัตรา 1 ต่อ 400-1000 ขึ้นอยู่กับความต้องการ (เนื่องจาก C-krop มีค่า Ph อยู่ในช่วงที่เหมาะกับการใช้งานในพืช)