Glossary: Biostimulants และคำศัพท์ที่เกี่ยวข้อง

Glossary เกี่ยวกับ Biostimulants

ยินดีต้อนรับสู่ Glossary เกี่ยวกับ Biostimulants และคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องในวงการเกษตร วัตถุประสงค์ของ Glossary นี้คือ:

  • เพื่อให้ความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับ Biostimulants และบทบาทสำคัญในการเกษตรสมัยใหม่
  • เพื่อรวบรวมคำศัพท์สำคัญที่เกี่ยวข้องกับการใช้ Biostimulants และการเกษตรยั่งยืน
  • เพื่อช่วยให้เกษตรกร และผู้สนใจทั่วไปเข้าใจแนวคิดและเทคโนโลยีใหม่ๆ ในการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร
  • เพื่อส่งเสริมการใช้ Biostimulants อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

Glossary นี้แบ่งออกเป็นหมวดหมู่ต่างๆ เพื่อให้ง่ายต่อการค้นหาและทำความเข้าใจ เราหวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาความรู้และการปฏิบัติในด้านการเกษตรของคุณ

ก. ประเภทและส่วนประกอบของ Biostimulants

Biostimulants (สารเสริมประสิทธิภาพพืช)

สารหรือจุลินทรีย์ที่ช่วยกระตุ้นกระบวนการทางชีวภาพในพืช เพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมธาตุอาหาร และเสริมสร้างความทนทานต่อสภาวะเครียด

สารฮิวมิก (Humic substances)

สารอินทรีย์ที่เกิดจากการย่อยสลายของซากพืชซากสัตว์ ช่วยปรับปรุงโครงสร้างดินและเพิ่มการดูดซึมธาตุอาหารของพืช

กรดอะมิโน (Amino acids)

โมเลกุลที่เป็นส่วนประกอบพื้นฐานของโปรตีน ช่วยในการสร้างโปรตีนและกระตุ้นการเจริญเติบโตของพืช

ซีครอป (C-krop)สารสกัดกรดอะมิโนจากปลาทะเล
เช่น ผลิตภัณฑ์ C-krop สารBiostimulant ที่พืชดูดซึมง่ายและเร็วทั้งทางใบและราก

สาหร่าย (Seaweed extracts)

สารสกัดจากสาหร่ายทะเลที่อุดมไปด้วยธาตุอาหารและสารกระตุ้นการเจริญเติบโตของพืช

จุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ (Beneficial microorganisms)

จุลินทรีย์ที่อาศัยอยู่ในดินและมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดินและส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืช ตัวอย่าง Trico-Z จุลินทรีย์ป้องกันรักษาโรคพืช ใช้ในเกษตรอินทรีย์ได้ดี ปลอดภัยต่อผู้บริโภคและผู้ผลิต

ไคโตซาน (Chitosan)

สารโพลีเมอร์ธรรมชาติที่สกัดจากเปลือกสัตว์ทะเล ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของพืชและเพิ่มความต้านทานต่อโรค

Chitosan Pure:ไคโตซานบริสุทธิ์ ไม่ผสมปุ๋ยน้ำ
ไคโตซานบริสุทธิ์ ไม่ผสมปุ๋ยน้ำ เหมาะสำหรับพืชทุกชนิด

ข. กระบวนการทางสรีรวิทยาและการตอบสนองของพืช

กลไกการทำงานของ Biostimulants ในพืช

🔬
ระดับเซลล์
• ลดการผลิต ROS
• ลดความเสียหายของเยื่อหุ้มเซลล์
• ปรับสมดุลไอออน
• ปรับตัวด้านออสโมซิส
🧬
ระดับโมเลกุล
• กระตุ้นกลไกต้านอนุมูลอิสระ
• เปลี่ยนเครือข่ายการขนส่ง
• กระตุ้นยีนที่เกี่ยวข้องกับความเครียด
• เพิ่มการแสดงออกของยีน
🌿
ระดับสรีรวิทยา
• เพิ่มปริมาณคลอโรฟิลล์
• จัดระเบียบไทลาคอยด์(Thylakoids)
• เพิ่มอัตราการสังเคราะห์แสง
• เพิ่มการนำของปากใบ
• ลดการผลิตอนุมูลอิสระ
🌳
ระดับลักษณะปรากฏ
• เพิ่มการเจริญเติบโตของยอดและราก
• เพิ่มประสิทธิภาพกลไกต้านอนุมูลอิสระ
• ปรับปรุงผลผลิตและคุณภาพของพืช

สรีรวิทยาของพืช (Plant physiology)

การศึกษาเกี่ยวกับกระบวนการทำงานและการเจริญเติบโตของพืช รวมถึงการตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อม

การดูดซึมธาตุอาหาร (Nutrient uptake)

กระบวนการที่พืชดูดซึมและนำธาตุอาหารจากดินไปใช้ในการเจริญเติบโตและพัฒนา

การเจริญเติบโตของราก (Root growth)

การพัฒนาและขยายตัวของระบบรากพืช ซึ่งมีความสำคัญต่อการดูดซึมน้ำและธาตุอาหาร

ความเครียดในพืช (Plant stress)

สภาวะที่พืชได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกที่ไม่เหมาะสม เช่น ความแห้งแล้ง อุณหภูมิสูง หรือการขาดธาตุอาหาร

ความทนทานต่อสภาวะเครียด (Stress tolerance)

ความสามารถของพืชในการปรับตัวและอยู่รอดภายใต้สภาวะแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม

ประสิทธิภาพการใช้น้ำ (Water use efficiency)

อัตราส่วนระหว่างผลผลิตที่ได้กับปริมาณน้ำที่พืชใช้ แสดงถึงความสามารถของพืชในการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ

ค. การจัดการและระบบการเกษตร

การจัดการดิน (Soil management)

วิธีการปรับปรุงและรักษาคุณภาพของดินเพื่อให้เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพืช

เกษตรอินทรีย์ (Organic farming)

ระบบการเกษตรที่เน้นการใช้วัสดุธรรมชาติและหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีสังเคราะห์

ปุ๋ยอินทรีย์ (Organic fertilizers)

ปุ๋ยที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติ เช่น มูลสัตว์ เศษพืช หรือปุ๋ยหมัก ช่วยปรับปรุงโครงสร้างดินและเพิ่มธาตุอาหารให้แก่พืช

ความอุดมสมบูรณ์ของดิน (Soil fertility)

คุณสมบัติของดินที่สามารถให้ธาตุอาหารและสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพืช

ง. ผลลัพธ์และประสิทธิภาพทางการเกษตร

ผลผลิตทางการเกษตร (Agricultural yield)

ปริมาณผลผลิตที่ได้จากการเพาะปลูกพืชในพื้นที่และระยะเวลาที่กำหนด

คุณภาพผลผลิต (Crop quality)

ลักษณะทางกายภาพและคุณค่าทางโภชนาการของผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งมีผลต่อมูลค่าทางการตลาด

จ. ปัจจัยภายนอกและนวัตกรรม

นวัตกรรมทางการเกษตร (Agricultural innovation)

การพัฒนาเทคโนโลยี วิธีการ หรือผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความยั่งยืนในการทำเกษตรกรรม

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate change)

การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศในระยะยาว ซึ่งส่งผลกระทบต่อรูปแบบการทำเกษตรและการเจริญเติบโตของพืช

กฎระเบียบด้านการเกษตร (Agricultural regulations)

ข้อกำหนดและมาตรฐานที่ควบคุมการทำเกษตรกรรม รวมถึงการใช้สารเคมีและวิธีการผลิตต่างๆ เพื่อความปลอดภัยและความยั่งยืน

ประโยชน์ของ Biostimulants ในการทำเกษตร

1. เพิ่มผลผลิต

  • เพิ่มปริมาณผลผลิต: Biostimulants ช่วยกระตุ้นกระบวนการทางสรีรวิทยาของพืช ทำให้พืชเจริญเติบโตได้ดีขึ้น ส่งผลให้ผลผลิตเพิ่มขึ้น 10-30% ขึ้นอยู่กับชนิดของพืชและสภาพแวดล้อม
  • ปรับปรุงคุณภาพผลผลิต: ช่วยเพิ่มขนาดของผลผลิต ปรับปรุงสี รสชาติ และคุณค่าทางโภชนาการ ทำให้ผลผลิตมีมูลค่าสูงขึ้น
  • ลดความเสียหายจากสภาวะเครียด: ช่วยให้พืชทนต่อสภาวะแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม เช่น ภัยแล้ง น้ำท่วม หรืออุณหภูมิสูง ลดความเสียหายของผลผลิตได้ถึง 20-40%

2. ปรับปรุงดิน

  • ปรับปรุงโครงสร้างดิน: Biostimulants บางชนิด เช่น สารฮิวมิก ช่วยปรับปรุงโครงสร้างดิน ทำให้ดินร่วนซุย ระบายน้ำและอากาศได้ดีขึ้น
  • เพิ่มจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์: ส่งเสริมการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ในดิน ช่วยในการย่อยสลายอินทรียวัตถุและปลดปล่อยธาตุอาหาร
  • เพิ่มความสามารถในการอุ้มน้ำ: ช่วยให้ดินสามารถเก็บกักน้ำได้ดีขึ้น ลดการใช้น้ำในการเกษตรได้ประมาณ 15-25%

3. ประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม

  • ลดการใช้ปุ๋ยเคมี: การใช้ Biostimulants ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมธาตุอาหาร ทำให้สามารถลดการใช้ปุ๋ยเคมีลงได้ 20-30% โดยไม่กระทบต่อผลผลิต
  • ลดการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช: Biostimulants ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้พืช ทำให้ต้านทานต่อโรคและแมลงได้ดีขึ้น ลดการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชได้ประมาณ 15-25%
  • ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก: การลดการใช้ปุ๋ยเคมีและการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากภาคการเกษตรได้ประมาณ 10-15%

สถิติที่แสดงให้เห็นถึงประโยชน์ของ Biostimulants ในระบบเกษตรไทย

25%
เพิ่มผลผลิตโดยเฉลี่ย
30%
ลดการใช้ปุ๋ยเคมี
20%
ลดการใช้น้ำ
15%
ลดการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช

หมายเหตุ: สถิติเหล่านี้เป็นค่าเฉลี่ยจากการศึกษาและรายงานของเกษตรกรที่ใช้ Biostimulants ในประเทศไทย ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปตามชนิดของพืช สภาพแวดล้อม และวิธีการใช้งาน

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Biostimulants

1. Biostimulants คืออะไร?
Biostimulants เป็นสารหรือจุลินทรีย์ที่ใช้กับพืชหรือดินเพื่อกระตุ้นกระบวนการทางธรรมชาติ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมธาตุอาหาร ความทนทานต่อความเครียดจากสภาพแวดล้อม และคุณภาพของผลผลิต โดยไม่ใช่ปุ๋ยหรือสารกำจัดศัตรูพืชโดยตรง
2. Biostimulants แตกต่างจากปุ๋ยอย่างไร?
ปุ๋ยให้ธาตุอาหารโดยตรงแก่พืช ในขณะที่ Biostimulants ทำงานโดยกระตุ้นกระบวนการทางชีวภาพในพืชและดิน ช่วยให้พืชใช้ธาตุอาหารที่มีอยู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพิ่มความแข็งแรง และความทนทานต่อสภาวะเครียดต่างๆ
3. Biostimulants มีประโยชน์อย่างไรต่อพืช?
Biostimulants มีประโยชน์หลายด้าน เช่น:
  • เพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมและการใช้ธาตุอาหาร
  • เสริมสร้างความทนทานต่อความเครียดจากสภาพแวดล้อม เช่น ภัยแล้ง หรืออุณหภูมิสูง
  • ปรับปรุงโครงสร้างของดินและเพิ่มจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์
  • กระตุ้นการเจริญเติบโตและพัฒนาการของราก
  • เพิ่มผลผลิตและคุณภาพของพืช
4. Biostimulants มีกี่ประเภท?
Biostimulants มีหลายประเภท แต่ที่พบบ่อยได้แก่:
  1. กรดฮิวมิกและกรดฟูลวิก
  2. สารสกัดจากสาหร่าย
  3. โปรตีนไฮโดรไลเสทและกรดอะมิโน
  4. จุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์
  5. ไคโตซาน
  6. สารควบคุมการเจริญเติบโตของพืช
แต่ละประเภทมีกลไกการทำงานและประโยชน์ที่แตกต่างกันไป
5. จะใช้ Biostimulants อย่างไรให้ได้ผลดีที่สุด?
เพื่อให้ได้ผลดีที่สุด ควรปฏิบัติดังนี้:
  • เลือกใช้ให้เหมาะสมกับชนิดของพืชและสภาพแวดล้อม
  • ใช้ตามคำแนะนำบนฉลากอย่างเคร่งครัด
  • ใช้ร่วมกับการจัดการดินและการให้ปุ๋ยที่เหมาะสม
  • ใช้ในช่วงเวลาที่พืชต้องการ เช่น ช่วงเริ่มปลูก ออกดอก หรือติดผล
  • ใช้อย่างสม่ำเสมอตามแผนการผลิต
6. Biostimulants ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมหรือไม่?
โดยทั่วไป Biostimulants มีความปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมสูง เนื่องจาก:
  • ส่วนใหญ่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติหรือจุลินทรีย์ที่พบในธรรมชาติ
  • ไม่ตกค้างในสิ่งแวดล้อมเหมือนสารเคมีสังเคราะห์
  • ช่วยลดการใช้ปุ๋ยเคมีและสารกำจัดศัตรูพืช
  • ส่งเสริมความหลากหลายทางชีวภาพในดิน
อย่างไรก็ตาม ควรใช้ตามคำแนะนำเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดและความปลอดภัย
7. Biostimulants เหมาะกับพืชชนิดใดบ้าง?
Biostimulants สามารถใช้ได้กับพืชหลากหลายชนิด ทั้งพืชไร่ พืชสวน ไม้ผล ผัก และไม้ดอก ตัวอย่างเช่น:
  • พืชไร่: ข้าว ข้าวโพด อ้อย มันสำปะหลัง
  • พืชสวน: ส้ม ทุเรียน มะม่วง ลำไย
  • ผัก: มะเขือเทศ พริก ผักกาดหอม แตงกวา
  • ไม้ดอก: กุหลาบ เบญจมาศ ปทุมมา
การเลือกใช้ขึ้นอยู่กับชนิดของ Biostimulants และความต้องการเฉพาะของพืชแต่ละชนิด
8. Biostimulants สามารถแก้ปัญหาดินเสื่อมโทรมได้หรือไม่?
Biostimulants สามารถช่วยปรับปรุงสภาพดินที่เสื่อมโทรมได้ในระดับหนึ่ง โดย:
  • เพิ่มกิจกรรมของจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ในดิน
  • ปรับปรุงโครงสร้างดิน ทำให้ดินร่วนซุย
  • เพิ่มความสามารถในการอุ้มน้ำของดิน
  • ช่วยในการปลดปล่อยธาตุอาหารที่ถูกตรึงในดิน
อย่างไรก็ตาม การแก้ปัญหาดินเสื่อมโทรมควรใช้วิธีผสมผสาน รวมถึงการปรับปรุงดินด้วยวิธีอื่นๆ ร่วมด้วย
9. Biostimulants มีข้อจำกัดหรือข้อควรระวังอะไรบ้าง?
แม้ว่า Biostimulants จะมีประโยชน์มาก แต่ก็มีข้อควรระวังบางประการ:
  • ไม่ใช่สารวิเศษที่แก้ปัญหาได้ทุกอย่าง ต้องใช้ร่วมกับการจัดการที่ดี
  • ผลอาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมและชนิดของพืช
  • การใช้มากเกินไปอาจไม่เกิดประโยชน์เพิ่มและสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ
  • บางชนิดอาจมีอายุการเก็บรักษาสั้น ต้องใช้ภายในระยะเวลาที่กำหนด
  • ควรระวังการใช้ร่วมกับสารเคมีบางชนิดที่อาจเข้ากันไม่ได้
Custom footer text for child theme