วิธีใส่ปุ๋ยคอกให้ทุเรียนอย่างปลอดภัย

การใส่ปุ๋ยคอกให้ทุเรียนช่วงต่างๆ

เร่งแตกยอดทุเรียนเล็ก เร่งราก เร่งโตไว ใบเขียวสด ขยายลำต้น กิ่งก้าน ใช้น้อยเห็นผลไว บำรุงต้น แตกยอดเพียบ ช่วยให้ทุเรียนปลูกใหม่ตั้งตัวเร็ว โตไร้การสะดุด

สูตรบำรุงทุเรียนเล็กให้แตกยอด

ปุ๋ยคอกก็เป็นปุ๋ยชนิดหนึ่งเมื่อใส่มากเกินไปก็เกิดความเป็นพิษกับทุเรียนได้เหมือนกับปุ๋ยเคมีโดยเฉพาะทุเรียนเล็กหรือทุเรียนปลูกใหม่

ในบทความนี้แอดจะพามาทำความรู้จักกับปุ๋ยคอกให้มากขึ้นเพื่อให้ชาวสวนทุเรียนมือใหม่และมือเก๋า ที่มักมีความกังวลหรืออาจมีความเชื่อผิดๆที่ว่าปุ๋ยคอกทำให้ทุเรียนเป็นโรค

ปุ๋ยคอกคือปุ๋ยที่ได้จากมูลสัตว์โดยนำมูลสัตว์มากองทิ้งไว้หรือนำมาตากแดดจนแห้ง

ปุ๋ยคอกที่ได้โดยวิธีการนี้ต้องระวังเมื่อนำไปใส่ให้ทุเรียน เพราะขบวนการย่อยสลายยังไม่สมบูรณ์ เมื่อนำไปใส่ให้ทุเรียน อาจทำให้ปุ๋ยคอกนี้ไปแย่งไนโตรเจนในบริเวณรากทุเรียน ทำให้ทุเรียนแสดงอาการใบเหลือง เพราะขาดไนโตรเจน

ปุ๋ยคอกที่ผ่านการขบวนการหมัก

ปุ๋ยคอกชนิดนี้จะมีความปลอดภัยมากกว่าปุ๋ยคอกที่ไม่ผ่านการหมัก เพราะการหมักทำให้เกิดการย่อยสลายอย่างสมบูรณ์เมื่อนำปุ๋ยคอกชนิดนี้ มาใส่ให้ต้นทุเรียนก็จะไม่เกิดขบวนการย่อยในปุ๋ยคอกนี้อีก ทำให้ไม่เกิดการแย่งธาตุไนโตรเจนกับรากทุเรียน

วิธีใส่ปุ๋ยคอกให้ทุเรียนเล็ก

หลังปลูกเมื่อทุเรียนเล็กเริ่มแตกยอดมียอดปริๆ ก็ให้เริ่มใส่ได้เลย โดยโรยปุ๋ยคอกรอบๆต้น โรยบางๆห่างจากโคนต้นประมาณ 1-2 คืบ ทุก 7-10 วันครั้ง หรือถ้าไม่สะดวกก็ให้เดือนละครั้ง

การใส่ปุ๋ยคอกในทุเรียนอายุ 1 ปีขึนไป

ปริมาณปุ๋ยคอกที่ต้องใส่ให้ทุเรียนแต่ละต้น คำนวนได้จากรัศมีทรงพุ่ม มีสูตรดังนี้

(รัศมีทรงพุ่ม (เมตร)) x (2) x 2.25 = จำนวนกิโลกรัมของปุ๋ยคอก/ต้น/ปี

เช่น ทุเรียน อายุ 1 ปีมีขนาดรัศมี 1.5 เมตร

(1.5)x(2)x(2.25) = 6.75 กิโลกรัม

ดังนั้นปริมาณปุ๋ยคอกที่ต้องใส่ = 6.75 กิโลกรัม / ต้น / ปี

ถ้าแบ่งใส่ 2 เดือนครั้ง ก็ใส่ครั้งละ 1 กิโลกว่าๆนั่นเอง หรือแบ่งใส่เดือนละครั้งก็ใส่ครั้งละครึ่งกิโลกว่าๆ

ข้อควรระวังเมื่อใส่ปุ๋ยคอกให้ทุเรียน

ปุ๋ยคอกหมักดีกว่าปุ๋ยคอกตากแห้ง อย่าใส่มากเกินไปเพราะปุ๋ยคอกก็เป็นปุ๋ยเหมือนกัน ถ้ามากเกินก็เป็นพิษต่อต้นทุเรียนได้เหมือนกัน วิธีใส่ควรโรยบางๆ ถ้าใส่หนาจะทำให้รากทุเรียนขาดอากาศ ถ้าเป็นทุเรียนเล็กอาจทำให้ต้นทุเรียนตายได้

ใส่ปุ๋ยเสร็จต้องให้น้ำตามทุกครั้ง เพราะรากจะดูดปุ๋ยได้ต้องอยู่ในรูปสารละลายเท่านั้น เรียกว่าน้ำเป็นตัวนำพาปุ๋ยไปยังส่วนต่างๆของพืชนั้นเอง