รู้จักแมกนีเซียม…ธาตุอาหารรองที่สำคัญไม่แพ้ธาตุหลัก!
- แมกนีเซียมเป็นธาตุอาหารรองที่จำเป็นต่อการสังเคราะห์แสงของพืช (ชื่อภาษาอังกฤษ: Magnesium, สัญลักษณ์: Mg)
- พืชดูดซึมแมกนีเซียมในรูป Mg²⁺ ผ่านทางราก และเป็นองค์ประกอบสำคัญของคลอโรฟิลล์
- มีบทบาทสำคัญในการสังเคราะห์โปรตีน การเคลื่อนย้ายคาร์โบไฮเดรต และการสร้างพลังงานในพืช
สังเกตอาการขาดและเกินแมกนีเซียม
- พืชขาดแมกนีเซียม: ใบแก่เหลืองระหว่างเส้นใบ แต่เส้นใบยังเขียว ใบร่วงก่อนกำหนด การเจริญเติบโตช้า
- พืชได้แมกนีเซียมมากเกิน: มักพบได้น้อย แต่อาจทำให้เกิดการขาดแคลเซียมและโพแทสเซียม
- ช่วงสำคัญที่พืชต้องการแมกนีเซียม: ระยะการเจริญเติบโตทางใบ และช่วงสร้างผลผลิต
วิธีให้แมกนีเซียมแก่พืช
- แหล่งแมกนีเซียมที่ใช้กันทั่วไป • ปุ๋ยเคมี: แมกนีเซียมซัลเฟต (Epsom Salt) • ปูนโดโลไมต์: ให้ทั้งแคลเซียมและแมกนีเซียม • วัสดุธรรมชาติ: เปลือกไข่บด สาหร่ายทะเล
- วิธีการให้แมกนีเซียม • ผสมดินก่อนปลูก • ละลายน้ำรดโคนต้น • ฉีดพ่นทางใบ (โดยเฉพาะกรณีแก้ไขอาการขาดเร่งด่วน)
- ข้อควรระวัง • ตรวจสอบค่า pH ของดินก่อนให้ • ระวังการใช้ร่วมกับปุ๋ยฟอสเฟต • ไม่ควรให้มากเกินในครั้งเดียว
สรุปสำคัญเรื่องแมกนีเซียม: จัดการให้เหมาะสมตามสภาพดินและพืช
💪 สำหรับเกษตรกร: การจัดการแมกนีเซียมอย่างมีประสิทธิภาพ
- การเลือกใช้แหล่งแมกนีเซียม
• ดินเป็นกรด → ใช้ปูนโดโลไมต์
• ต้องการแก้ไขเร่งด่วน → ใช้ Epsom Salt - เทคนิคการจัดการ
• วิเคราะห์ดินก่อนใส่ปุ๋ย
• ให้แมกนีเซียมพร้อมการให้น้ำ
• ปรับสมดุลธาตุอาหารในดิน
🌱 สำหรับผู้ปลูกทั่วไป: วิธีง่ายๆ ในการจัดการแมกนีเซียม
- วิธีเพิ่มแมกนีเซียมแบบประหยัด • ผสม Epsom Salt กับน้ำรด
- เคล็ดลับการดูแล • สังเกตอาการที่ใบแก่ก่อนเสมอ • ให้แมกนีเซียมในปริมาณน้อยแต่สม่ำเสมอ • รักษาความชื้นดินให้เหมาะสม