รู้จักโพแทสเซียม…ธาตุอาหารที่ช่วยเสริมความแข็งแรง!
- โพแทสเซียมเป็นธาตุอาหารหลักที่สำคัญอีกตัวหนึ่งของพืช (ชื่อภาษาอังกฤษ: Potassium, สัญลักษณ์: K)
- พืชดูดซึมโพแทสเซียมในรูปของ K⁺ ผ่านทางราก เคลื่อนย้ายได้ดีในพืช
- เป็นธาตุที่ช่วยในการสร้างและเคลื่อนย้ายแป้งและน้ำตาล ทำให้ผลผลิตมีคุณภาพดี รสชาติหวานฉ่ำ
สังเกตอาการขาดและเกินโพแทสเซียมได้จาก
- พืชขาดโพแทสเซียม: ใบไหม้ที่ขอบและปลายใบ ผลผลิตมีคุณภาพต่ำ ไม่หวาน ลำต้นอ่อนแอล้มง่าย
- พืชได้โพแทสเซียมมากเกิน: รากไหม้ ใบไหม้ เกิดการแย่งชิงธาตุอาหารอื่นๆ โดยเฉพาะแมกนีเซียม
- ช่วงสำคัญที่พืชต้องการโพแทสเซียมมาก: ระยะสร้างหัว เมล็ด และผล รวมถึงช่วงที่ต้องทนต่อสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม
วิธีให้โพแทสเซียมแก่พืช
- แหล่งโพแทสเซียมที่ใช้กันทั่วไป • ปุ๋ยเคมี: โพแทสเซียมคลอไรด์ (0-0-60), โพแทสเซียมซัลเฟต (0-0-50) • ปุ๋ยอินทรีย์: ขี้เถ้า เศษพืช กากกาแฟ เปลือกกล้วย • แร่ธรรมชาติ: หินฝุ่น แร่เฟลด์สปาร์
- วิธีการให้โพแทสเซียม • หว่านและคลุกเคล้ากับดิน • ผสมน้ำรดที่โคนต้น • ฉีดพ่นทางใบในรูปสารละลาย
- ข้อควรระวัง • ระวังการใช้ร่วมกับปูนเพราะอาจตกตะกอน • ควรใช้ร่วมกับธาตุอื่นอย่างสมดุล • หลีกเลี่ยงการใส่ช่วงดินแห้ง
สรุปสำคัญเรื่องโพแทสเซียม: เลือกใช้ให้เหมาะกับพืชและสภาพแวดล้อม
💪 สำหรับเกษตรกร: การจัดการโพแทสเซียมอย่างมืออาชีพ
- เลือกแหล่งโพแทสเซียมตามความเหมาะสม • ต้องการผลเร็ว → ใช้ปุ๋ยเคมีละลายน้ำง่าย • ปลูกพืชอินทรีย์ → ใช้ขี้เถ้า หินฝุ่น • ประหยัดต้นทุน → เก็บเศษพืช ทำปุ๋ยหมัก
- เทคนิคการใช้อย่างมีประสิทธิภาพ • ใส่ปุ๋ยตามระยะการเจริญเติบโต • ผสมผสานแหล่งโพแทสเซียมหลายรูปแบบ • ตรวจวิเคราะห์ดินก่อนใส่ปุ๋ย
🌱 สำหรับผู้ปลูกทั่วไป: เริ่มต้นง่ายๆ ได้ผลดี
- วิธีการง่ายๆ สำหรับการเพิ่มโพแทสเซียม • เก็บเปลือกกล้วย กากกาแฟมาทำปุ๋ย • ใช้ขี้เถ้าจากการเผาไม้ • ทำน้ำหมักจากเศษผักผลไม้
- เคล็ดลับการสังเกต • ดูอาการที่ใบแก่ก่อนใบอ่อน • สังเกตความแข็งแรงของลำต้น • ตรวจสอบคุณภาพผลผลิต เช่น ความหวาน ขนาด